ใน ปีนี้อาจเป็นปีที่ทุกคนต้องใช้ความอดทนสูงสักหน่อย ก็เพราะเศรษฐกิจแย่ๆ แบบนี้น่ะซิ ในปีนี้เป็นปีของการขยาย คือจะขยายขึ้นหรือขยายลง ก็แล้วแต่บุญวาสนาและการกระทำของแต่ละคนที่สั่งสมกันมานะคะ เมื่อรู้อย่างนี้แล้วเราควรจะหาทางแก้ไขป้องกันไม่ให้สิ่งที่ไม่ดีไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตามเกิดขึ้นกับตัวเราจริงมั้ย?
อย่าง ในเดือนนี้เป็นปีใหม่ของชาวจีน ปูชอบตรงที่ชาวจีนมักชอบเตรียมการเพื่อต้อนรับปีใหม่ที่มาถึงเสมอ และพวกเขาก็มักจะปฏิบัติแต่สิ่งดีๆ อย่างเช่น ทำความสะอาด ทาสีบ้านใหม่ เปิดบ้านให้แสงแดดและลมได้พัดพาเอาสิ่งเก่าๆ แย่ๆ ออกไป และรอรับโชคลาภพร้อมสิ่งใหม่ๆ เข้ามาในบ้าน และยังทำให้บ้านดูสดใสอีกด้วย
ตรุษ จีนเขามักจะห้ามพูดจาหยาบคาย หรือพูดเรื่องไม่ดีที่สื่อถึงการสูญเสีย อย่างการเจ็บไข้ได้ป่วยหรือความตาย และต้องพยายามไม่โกรธหรือทำร้ายใครให้พูดแต่เรื่องดีๆ เช่น ขอให้มีความสุข สุขภาพแข็งแรงอายุยืนเป็นหมื่นๆ ปี เงินไหลมาเทมา
ที่สำคัญมากๆ ก็คือห้ามให้ใครกู้ยืมเงินเด็ดขาดและควรทำการปิดบัญชีหนี้สินให้หมดก่อนปี ใหม่ เพราะชาวจีนเชื่อว่ามิฉะนั้นจะต้องถูกคนอื่นยืมเงินหรือโดนเบียดเบียนไปตลอด ทั้งปีเป็นแน่

ชาว จีนส่วนใหญ่แล้วเป็นคนขยันทำมาหากิน อะไรที่สามารถนำมากระตุ้นการเงิน ส่งเสริมการค้าขายได้เขามักจะนิยมทำกัน ง่ายๆ เลยก็อย่างที่เรามักจะเห็นว่าตามร้านค้าจะมีคางคกสามขาคาบเหรียญ เพราะชาวจีนเชื่อว่าเจ้าคางคกสามขานั้นชอบพ่นเงินออกมาน่ะซิ หรือมีแมวคอยกวักมือ ก็เหมือนคนไทยที่นิยมตั้งนางกวักคอยเรียกลูกค้าเข้าร้านนั่นแหละ
ถ้า เป็นธุรกิจหรือร้านค้าใหญ่ๆ เขามักจะตั้งเรือสำเภา เพราะชาวจีนเชื่อว่าเรือสำเภาจะนำพามาซึ่งเงินทองและทรัพย์สมบัติ ให้เข้ามาในบ้านและธุรกิจได้โดยง่าย แบบไม่ต้องเหนื่อยไม่ต้องเสียแรง เพราะในสมัยก่อนเรือสำเภามักใช้บรรทุกสินค้าของมีค่า เวลาเคลื่อนตัวเข้าฝั่งก็จะอาศัยแรงลมและน้ำนั่นเอง
เวลา ที่จะตั้ง หรือวางเรือ ก็ต้องดูให้ดีด้วยเช่นกัน ไม่ควรตั้งเรือซะสูงเกินไปเพราะจะกลายเป็นว่ากว่าจะไขว่คว้าได้คงเหนื่อยพอ ดูเพราะมันสูงเกินไป อีกอย่างตามธรรมชาติของเรือจะแล่นบนพื้นน้ำไม่ได้บินบนท้องฟ้า เวลาวางก็ต้องเอาหัวเรือหันเข้าบ้านหรือสำนักงานของเรา ทำให้เหมือนกับว่าบ้านหรือสำนักงานเรานั้นเป็นท่าเทียบเรือ เรือจะได้ขนทรัพย์สมบัติเข้าบ้าน ดูอย่างประเทศสิงคโปร์ซิประเทศเขารวยมั้ย? การค้าขายก็ดีเพราะประเทศเขาเป็นเสมือนท่าเทียบเรือ ที่เรือต่างๆ จากประเทศทั่วโลกต้องมาจอดมาพักยังไงล่ะ
แล้วเวลาวางห้ามหันหัว เรือออกนอกบ้านเด็ดขาดเชียว ไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นว่าขนสมบัติเงินทองจากบ้านเราออกไปน่ะซิ และก็ไม่ควรเป็นเรือเปล่าด้วยควรจะใส่เหรียญแก้วแหวนเงินทองลงไป (ไม่ต้องของจริงก็ได้ คือให้เรือมีน้ำหนัก) หลายบ้านเลยล่ะที่ปูได้มีโอกาสไปเยี่ยมเยียน เพราะเมื่อก่อนมีโอกาสได้ทำรายการ “ก๊อก ก๊อก ก๊อก” ปูก็แนะนำไปหลายรายทีเดียว
มีอยู่ครั้งหนึ่งปูไปถ่ายละครที่ตลาด ที่นั่นมีร้านตัดผมอยู่ร้านหนึ่ง เขามีเรือสำเภาลำใหญ่มากแต่หันหัวเรือออกไปหน้าร้าน นั่งเหงาตบยุงอยู่ ปูไปเห็นเข้าก็เลยแนะนำให้หันหัวเรือเข้าร้านแล้วใส่เศษเหรียญลงไป อธิษฐานจิตขอให้เงินทองลูกค้าเข้าร้าน เจ้าของร้านก็รีบกุลีกุจอทำทันที พอปูกลับมาอีกทีเขาขอบคุณปูใหญ่เลย บอกไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ว่าพอปูเดินลับไปแล้วก็มีลูกค้าเข้ามาตัดผมยังไม่ขาดสายเลย “จะเป็นอย่างนี้ตลอดมั้ยครับ?” ปูก็ไม่รู้ซินะ พลังงานในจิตใต้สำนึกของคุณเองนั่นแหละ ที่อาจจะช่วยให้ความคิดของคุณเป็นจริงขึ้นมาก็ได้
แต่ถ้า คุณๆ จะสังเกตให้ดีๆ ว่าสิ่งเหล่านี้ทำไมถึงมีผลกับการเรียกลูกค้า ก็เพราะว่าเวลาเราวางเอาเรือหันหัวเข้าก็เหมือนมีลูกศรชี้นำทางให้คนเดินตาม เข้าร้านยังไงล่ะ หรือมีนางกวักแมวกวักก็เหมือนมีคนคอยเรียกเราให้เดินเข้าไปหา ดูอย่างตำรวจจราจรซิเขาแค่โบกมือเรียกเท่านั้นแหละ รถก็จะแล่นเร็วขึ้นทันทีถ้าเทียบกับการที่คุณตำรวจยืนเป่านกหวีดอยู่เฉยๆ ...คุณว่ามั้ยล่ะ?
http://horoscope.sanook.com/playfortune/playfortune_02318.php
No comments:
Post a Comment